เกมการตามหาเบาะแสเป็นเกมที่มีผู้เล่นนิยมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยแต่ละเกมก็มีการออกแบบที่ต่างสไตล์กันไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของเนื้อหา, การนำเสนอ หรือว่าในส่วนของการออกแบบภาพกราฟิกที่มีความสวยงาม สมจริง และถ้าใครที่ชอบการเล่าเรื่องราวในการสืบหาเบาะแสต่าง ๆ แล้วล่ะก็
ห้ามพลาดเกมแนวการค้นหาเบาะแสอย่าง Demon Hunter 5 เด็ดขาด ไม่งั้นจะหาว่าไม่บอกไม่ได้นะ เพราะมันมีฉากที่ทำให้เราได้ตื่นเต้น และตกใจแบบบ่อยมาก ๆ
– ระบบเนื้อเรื่อง
การเล่าเรื่องในเกม Demon Hunter 5 จะมีการเล่าเรื่องราวแบบ Animation สั้น ๆ ให้เราได้รับรู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจากผู้ว่าจ้างคนหนึ่ง ที่ต้องการให้นักล่าปีศาจ (ที่รับบทโดยตัวเราเองนี่แหละ) เข้าไปจัดการสิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ที่เขาดูแล เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ต่างก็ไม่เคยได้กลับออกมาอีกเลย และในระหว่างการพูดคุยนั่นเอง ก็มีลำแสงแปลกประหลาดที่เข้าสิงผู้ว่าจ้าง และท้าทายให้เราเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ
– ระบบ Gameplay
รูปแบบการเล่นจะเริ่มจากการที่ตัวเกม Demon Hunter 5 ให้เราได้ทำการตั้งชื่อของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก แล้วขอบอกไว้ก่อนว่าควรจะเปิดเสียงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่น เพราะเมื่อไหร่ที่เราได้เจอเข้ากับฉาก Jump Scare แล้วล่ะก็มันทำให้เพิ่มความอยากรู้มากขึ้นอีกเป็นกอง แต่อีกเรื่องที่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยก็คือ ถึงแม้ว่าโหมดที่เราจะเล่นจะเป็นโหมด Free to Play ที่เปิดให้เล่นแค่ฉากเดียว แต่มันก็กินเวลาพอสมควร ส่วนระดับความยากเป็นเรื่องที่เราสามารถตั้งค่าได้ หากใครที่เป็นมือใหม่ขอแนะนำให้เลือกแบบพื้นฐานไปเลย เพราะถ้าตอนไหนที่เราทำพลาดตัวเกมจะไม่มีการลงโทษใด ๆ
แถมตัวเฉลยอย่าง Hint ก็ยัง Cool Down เร็วอีกด้วย หรือถ้าใครฝีมือดีแล้วชอบความยากก็สามารถเลือกแบบขั้นสุดได้เลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราเองว่าชอบแบบไหน ในระหว่างการเล่น Demon Hunter 5 ก็จะมีเนื้อเรื่องสลับการเล่นตลอด ถ้าขี้เกียจอ่านสามารถกด Skip ได้ ส่วนระบบ Tutorial ก็สามารถเลือกให้สอนเฉพาะสิ่งสำคัญได้เช่นกัน
นอกจากนี้ก็ยังมี Mini Game ที่เล่นได้อย่างสนุกแล้วก็ไม่ยากมาก แค่สังเกตให้ดีก็พอว่าอะไรสามารถไปใช้กับอะไรได้ เพราะบางครั้งมันก็เป็นแค่ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไปแค่นั้นเองแหละ
#Esport #แข่งDota2 #แข่งPubg #แข่งROV #ReviewGame #DemonHunter5
