ความต่างของเกมโมบา และเกมเอาชีวิตรอด

ความต่างของเกมโมบา และเกมเอาชีวิตรอด Esport แข่งDota2 แข่งPubg แข่งROV ReviewGame ความต่างของเกมโมบาและเกมเอาชีวิตรอด

สำหรับใครหลายๆคนก็คงจะรู้จักเกมหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเกมแนวโมบ้าที่จะเป็นเกม battle เยอะแบบว่าชีวิตรอดเกม mmorpg open world game action scifi เกม fantasy รวมถึงเกมปลูกผักทําฟาร์มในเกมสร้างบ้านที่เมืองเกมที่รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์หรืออนิเมะชื่อดัง เหลือแต่เป็นคนที่มีความสนุกแตกต่างกันออกไปโดยในวันนี้จะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่าง 2 แนวสำหรับเกมแนว moba เกมเอาชีวิตรอดวัดสารเคมีและมีความแตกต่างและโดดเด่นในเรื่องใดกันบ้างมาดูกันได้เลย – พื้นฐานการเล่น แน่นอนว่าพื้นฐานการเล่นของเกมและจุดประสงค์ของเกมก็จะมีความแตกต่างกันออกไปโดยที่หมู่บ้านนั้นจะเน้นไปที่การตีป้อมปราการของศัตรูให้แดกให้หมดแม้ว่าจะไม่มีการสังหารการเกิดขึ้นก็สามารถโจมตีป้อมกันนะแต่ส่วนใหญ่ก็จะมีการสั่งหารกันเป็นระยะระยะเพื่อเพิ่มเงินและเพิ่ม item กับการในเกมแนวเอาชีวิตรอดนั้นไม่ใช่เกมที่เน้นการสังหารเป็นหลักเพราะว่าถ้าหากตายแล้วคือตายในเกมรอบนั้นจำเป็นจะต้องเอาชีวิตรอดให้อยู่เป็นทีมที่ 1 อาจจะมีปัญหาในการปะทะกันบ้างแต่ก็เน้นการออกชีวิตว่าเป็นหลักไม่ใช่การเข้าปะทะเป็นหลัก – เก็บไอเทม แน่นอนว่าเกม 2 เกมแต่ก็มีไอเทมที่แตกต่างกันออกไปด้วยเกมโมบ้าจะเป็นการเก็บเงินในเลนหรือการสังหารมินเนี่ยนเพื่อทำการเพิ่มเงินให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทีมและจำเป็นจะต้องออกไอเทมเพิ่มค่าสถานะให้แก่ตัวละครของตัวเองโดนเกมแนวเอาชีวิตรอดนั้นจะเป็นการค้นหาหรือเก็บของตามบ้านหรือสถานที่ต่างๆไม่สามารถเก็บเงินในเกมซื้อได้ในระหว่างการเล่นจำเป็นต้องอาศัยดวงเป็นหลักในการเล่นแต่ละครั้งเพราะแต่ละสถานที่ก็จะมีจำนวนคนลักษณะที่แตกต่างกันออกไป – คนในทีม สำหรับการเล่นเกมในหมู่บ้านนั้นส่วนใหญ่พื้นฐานจะเล่นฝั่งละ 5 ต่อ 5 หรือมีทีม 5 คนส่วนการเล่นเกมแนวเอาชีวิตรอดจะมีตั้งแต่ 3 คน 4 คนและ 5 คนขึ้นไปขึ้นอยู่กับแต่ละเกม – สเปคมือถือที่ใช้ แน่นอนว่าเกมส์จระเข้ของ 2 แนวนี้นั้นจำเป็นต้องใช้สเปคมือถือที่แตกต่างกันออกไปแต่ก็แตกต่างกันไม่มากเพราะจำเป็นต้องใช้มือถือที่มีสเปคกลางกลางถึงสูงจึงจะสามารถดาวน์โหลดเล่นเกมไม่ได้แนะนำให้เพื่อนใช้มือถือที่มีระบบปฏิบัติการเทียบเคียงกับสแนปดรากอน 740 ขึ้นไปหรือเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 12 ขึ้นไปโดยมือถือนั้นควรจะมีแรม 4-32 […]